เราไม่มีสิทธิ์ห้ามให้ใครแต่งรถในสไตล์ใด
เนื่องจากไม่มี ''สิทธิ์'' นั่นจริง
แต่เราแค่อยากกระตุ้นเตือน ! เพราะใครๆ ก็มี ''สิทธิ์''
ตกแต่งรถตัวเองตามความชอบ
ทั้งโดยตั้งใจจริงหรือเพื่อตามกระแสสังคมแต่งรถในช่วงนั้น
การเลือกล้อแม็กหรือใส่อแดปเตอร์ทำให้ล้อและยางล้นออกมานอกตัวถังรถ
มีความนิยมมานานกว่า 20 ปีแล้ว บางช่วงนิยมมากหน่อย
บางช่วงซาลงหรือห่างหายไปนาน แต่ในปี 2012-2013
ดูเหมือนกระแสจะกลับมาอย่างรุนแรงและเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะรถขนาดเล็กหรืออีโคคาร์
ทำกัน-แต่งกันตามกระแส อาจเพราะหลายคนคิดว่าเท่ ! ทั้งที่การแต่งรถล้อล้นมีแต่เสียกับ...เสีย
การแต่งรถย่อมต้องอยากให้สวยทั้งตัวเองและคนในสังคมมองว่าสวย
ไม่ใช่แค่สร้างความสนใจแล้วคนด่าลับหลังหรือไล่หลัง รวมถึงไม่ใช่มองสวยคนเดียว
(เฉพาะเจ้าของรถ) แต่คนอื่นไม่ได้เห็นสวยด้วย ทั้งอาจเหยียดหยามว่าเสียทั้งเงิน-เสียทั้งรถ
หรือแต่งรถเป็นหรือเปล่า ?
หากยังงงให้ลองนึกถึงการแต่งตัวของคนเราที่อยากให้ผู้อื่นชื่นชมด้วย
ไม่ใช่แค่ให้คนสนใจ หากคิดว่าสวยคนเดียวก็พอ สมมุติว่าตัวเองชอบคิดว่าสวย
โดยใส่กางเกงแดงเสื้อเขียวรองเท้าเหลืองเสื้อแขนเดียว ผู้คนสะดุดสายตาให้ความสนใจก็จริง
แต่ชื่นชม การแต่งรถล้อล้น อาจมาจากแนวคิดว่ารถแข่งล้อโต-ยางกว้าง
เพราะรถเหล่านั้นต้องเน้นการยึดเกาะให้สูงที่สุด ล้อกว้างก็ล้นออกมา แต่ยังไม่จบ !
เพราะรถแข่งเหล่านั้นถูกกติกาควบคุมให้ต้องทำโป่งตัวถังบานกว้างออกมา
เพื่อคลุมให้ล้ออยู่ในแนวบังโคลนใหม่ ไม่ใช่ล้นแบบเปลือยๆ
นอกจากความแตกต่างเรื่องล้อล้นแบบเปลือยในกระแสนิยมแล้ว
ยังแตกต่างเรื่องความกว้างจริงของล้อและยาง พวกรถแข่งล้อและยางกว้างจริง
ส่วนรถแต่งกว้างแค่พอสมควร แต่ไม่ได้กว้างมากจริงจนล้น
มักล้นเพราะระยะออฟเซตผิดหรือใส่สเปเซอร์รอง มองจากหน้าหรือท้ายรถเข้าไปก็เหมือนคนขาถ่าง
เท้าเล็กๆ ไม่ได้ล้นด้วยความกว้างจริงของล้อ
นอกจากรถแข่งล้อล้นแล้วมีโป่งใหม่คลุมแบบไม่ได้เปลือยแล้ว
ลองดูซูเปอร์คาร์ทั้งหลาย เช่น เฟอร์รารี, ลัมบอร์กินี, ปอร์เช่
ฯลฯ ส่วนใหญ่ทั้งแต่งและไม่แต่ง ล้อก็กว้างและยางก็กว้างจริงระดับ 300
มม. ก็ไม่เห็นแต่งให้ล้อล้นแต่อย่างใด
รถแข่งก็ล้อไม่ล้น ซูเปอร์คาร์ก็ล้อไม่ล้น
แล้วจะอ้างความ ''ดุ'' เพื่อนำมาใช้เป็นสไตล์การแต่งอีโคคาร์
หรือรถทั่วไปได้อย่างไร ?
''คางคก''
เป็นความคล้ายในสายตาของบางคน เมื่อเห็นรถท้ายตัดแฮตช์แบ็กหรืออีโคคาร์คันเล็ก
ใส่ล้อไม่กว้างจริง แต่ล้นออกมานอกตัวถัง โหลดเตี้ยด้านหลังมากก็ไม่ได้
ท้ายรถก็ดูโก่งๆ เพราะกลัวว่าขอบบังโคลนหลังจะกระแทกกับยางที่ล้น
ถ้าอยากให้เตี้ยก็ต้องทำโช้คอัพหรือเสริมยางกันกระแทกให้แข็ง
เมื่อรถแล่นก็....เด้งๆๆ ทั้งคนนั่งสะเทือนและรถก็ไม่เกาะ คล้ายคางคกตัวป้อมๆ
ขาถ่างๆ วิ่งกระดกๆๆ ไป
สารพัดข้อเสียของการใส่ล้อล้น เช่น
ลูกปืนล้อและช่วงล่างพังเร็ว
เสมือนแขนยื่นออกไปไกล
พวงมาลัยมีอาการตอบสนองคล้ายชกมวยมากและง่ายขึ้น
โหลดรถมากตามใจไม่ได้
เพราะยางจะกระแทกกับบังโคลน ต้องทำรถท้ายยกโก่งๆ หรือถ้าทำให้เตี้ยสมใจ
จนขอบบังโคลนใกล้กับยาง ก็ต้องทำโช้คอัพ สปริง
หรือยางกันกระแทกให้รถแข็งแบบแทบไม่ยุบ
รถไม่เกาะ-คนไส้เลื่อน
การทำให้ช่วงล่างแข็งมากๆ เป็นผลทำให้รถไม่เกาะ เด้งๆๆ จนผู้ชายแทบเป็นไส้เลื่อน
และหลายคนไม่เข้าใจหลักการง่ายๆ เมื่อทำรถให้ล้อไม่ยุบว่า
เมื่อล้อหรือรถอยากขยับยุบ หากทำให้แข็งจนแทบไม่ยุบ หน้ายางมุมนั้นจะแทบไม่เกาะ
เพราะเสมือนว่ามุมนั้นรถจะถูกยกลอย ในเมื่ออยากยุบแต่ไม่ยุบ
จึงดันลอยขึ้นทั้งมุมรถ ทำให้รถที่เด้งๆ จากการเซตให้แข็งมาก
มีการยึดเกาะของยางที่แย่ เสมือนรถจะเด้งๆ ลอยๆ ถี่ๆ สลับกันไปตลอด
การสะบัดน้ำ-โคลนของล้อล้นๆ รถตัวเองเลอะง่าย และอาจโดนผู้อื่นด้วยแบบเลี่ยงไม่ได้
เพราะล้อที่ล้นย่อมสะบัดน้ำ-โคลนเละเทะ
ตำรวจพร้อมจับ อย่าเพิ่งเถียงว่าไม่เคยโดน
เพราะตำรวจพร้อมจับกุมแบบไม่ได้ยัดข้อหา ขึ้นศาลก็แพ้หากล้อล้นอย่างชัดเจน
ทั้งดัดแปลงสภาพหรืออาจพ่วงข้อหาทำให้ผู้อื่นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
บทความนี้ไม่มีสิทธิ์ห้ามให้ใครแต่งรถในสไตล์ใด
เนื่องจากไม่มี ''สิทธิ์'' นั้นจริงๆ
เพียงแนะนำและกระตุกให้ฉุกคิดว่า การแต่งรถแบบล้อล้น...สวยจริงหรือไม่ ? หรือนิยมเพียงแค่คนกลุ่มเล็กๆ
รวมถึงการที่ผู้คนทั่วไปสนใจนั้น เพราะสวยหรือมองแล้วนินทาลับหลัง ? ซูเปอร์คาร์หรือรถแข่งแท้ๆ
ก็ไม่เห็นทำล้อล้น รถแต่งต้องโหลดได้จนเตี้ยตามใจ ช่วงล่างยุบตัวได้เต็มที่
นั่งเต็มพิกัดล้อต้องซุกบังโคลนแบบเฉี่ยวๆ ได้
ย้ำอีกครั้ง...หากอยากแต่งรถสไตล์ที่บางคนบอกกว่าคล้าย
''คางคก'' ล้อล้นๆ
ถ่างๆ ท้ายโก่งๆ โปรดอ่านอีกครั้งว่า เคยเห็นเฟอร์รารี, ลัมบอร์กินี,
ปอร์เช่ หรือรถแข่งดีทีเอ็มล้อล้นไหม ? เราไม่มีสิทธิ์ห้ามให้ใครแต่งรถในสไตล์ใด
แค่อยากกระตุ้นเตือน...ให้ฉุกคิดเท่านั้น ! เองคับ วิธีง่ายๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น